ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก

ปลูกเมลอนสู้แล้ง แค่ 72 ตร.ม. กำไรดีกว่าปลูกข้าว 25 ไร่

  วันนี้ (28 ธ.ค.) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่นายสุรพล ทองเที่ยง เกษตรจังหวัดพิจิตร และนายปราโมทย์ ยอดแก้ว ปฏิรูปที่ดินจังหวัดพิจิตร พร้อมด้วยนายเทวุษย์ บริรักษ์สันติกุล นายอำเภอบึงนาราง ลงพื้นที่ติดตามความก้าวหน้าในการส่งเสริมให้เกษตรกรปลูกพืชใช้น้ำน้อยแก้ไขปัญหาวิกฤตภัยแล้งทดแทนการทำนาปรัง ที่หมู่ 9 บ้านหนองจิกสี ต.บึงนาราง อ.บึงนาราง จ.พิจิตร โดยพบว่าชาวนาในหมู่บ้านนี้หันมาปลูกผักนานาชนิดส่งขายตลาดสี่มุมเมือง และตลาดไท มีรถกระบะบรรทุกนำพืชผัก คะน้า มะระ มะเขือยาว แตงกวา มะเขือเปราะ ฯลฯ ส่งขายวันละ 20 คันรถ สร้างรายได้เข้าหมู่บ้านวันละกว่า 2 แสนบาท
      
       นอกจากนี้ยังพบว่า นายธนนน ธีระวงศ์ไพศาลกุล อายุ 37 ปี จบการศึกษาปริญญาตรี สาขาครุศาสตร์ จาก มหาวิทยาลัยมหาสารคาม อยู่บ้านเลขที่ 401/4 หมู่ 9 บ้านหนองจิกสี อ.บึงนาราง ที่กลับมายึดอาชีพทำการเกษตรตามรอยบรรพบุรุษที่บ้านเกิด และรู้ดีถึงสภาพปัญหาภัยแล้ง-ราคาข้าวที่ตกต่ำ หันมาปลูกเมลอนปลอดสารพิษ ในโรงเรือนขนาด 6x12 เมตร หรือ 72 ตารางเมตร ใช้ระบบน้ำหยด จนสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำ โดยภายในโรงเรือนของนายธนนน ปลูกเมลอนได้ 316 ต้น คาดว่าจะได้ผลผลิต 270 ลูก แต่ละลูกมีน้ำหนักประมาณ 1.8 กก.-2.5 กก. ขณะนี้จำหน่ายอยู่ กก.ละ 90 บาท ใช้ระยะเวลาประมาณ 75-85 วัน ก็สามารถเก็บผลผลิตออกจำหน่ายได้ โดยในช่วงนี้ใกล้เทศกาลปีใหม่ ทำให้มีผู้สั่งจองซื้อล่วงหน้าไปหมดแล้ว และมีออเดอร์เข้ามาไม่ขาดสาย
      
       นายเทวุษย์ บริรักษ์สันติกุล นายอำเภอบึงนาราง ให้สัมภาษณ์เพิ่มเติมว่า ชาวบ้านหนองจิกสีเริ่มเปลี่ยนวิถีชีวิต จากอดีตที่ทำนาก็หันมาปลูกพืชผักที่ใช้น้ำน้อย ลดพื้นที่การทำนา มาปลูกอ้อย และทำการเกษตรอย่างอื่นกันมากขึ้น กรณีนายธนนนที่ปลูกเมลอนถือเป็นเกษตรรุ่นใหม่หัวก้าวหน้าที่ใช้พื้นที่เพียง 72 ตารางเมตร ใช้เวลาแค่ 75-85 วันก็สร้างรายได้ 30,000-40,000 บาทต่อ 1 โรงเรือน เมื่อเปรียบเทียบกับการทำนา 25 ไร่ ถือว่ามีรายได้มากกว่า แถมใช้น้ำน้อยกว่าและมีตลาดที่แน่นอน ถือเป็นแบบอย่างของเกษตรกรในจุดอื่นๆ อีกด้วย
      
       สำหรับท่านใดที่สนใจต้องการซื้อพืชผักปลอดสารพิษของหมู่บ้านหนองจิกสี สามารถติดต่อได้ที่ผู้ใหญ่บุญส่ง โทร. 08-60541698, นายธนนน เกษตรกรผู้ปลูกเมล่อน โทร 09-3341-2146 หรือติดต่อผ่านสำนักงานเกษตรจังหวัดพิจิตรโทร 0-5661-3423 ต่อ 103 ได้ในวัน-เวลาราชการ
หนุ่มพิจิตรลดทำนา ปลูก “เมลอน” สู้แล้ง แค่ 72 ตร.ม. กำไรดีกว่าปลูกข้าว 25 ไร่
       
หนุ่มพิจิตรลดทำนา ปลูก “เมลอน” สู้แล้ง แค่ 72 ตร.ม. กำไรดีกว่าปลูกข้าว 25 ไร่
       
หนุ่มพิจิตรลดทำนา ปลูก “เมลอน” สู้แล้ง แค่ 72 ตร.ม. กำไรดีกว่าปลูกข้าว 25 ไร่
       
หนุ่มพิจิตรลดทำนา ปลูก “เมลอน” สู้แล้ง แค่ 72 ตร.ม. กำไรดีกว่าปลูกข้าว 25 ไร่
       
หนุ่มพิจิตรลดทำนา ปลูก “เมลอน” สู้แล้ง แค่ 72 ตร.ม. กำไรดีกว่าปลูกข้าว 25 ไร่
       
หนุ่มพิจิตรลดทำนา ปลูก “เมลอน” สู้แล้ง แค่ 72 ตร.ม. กำไรดีกว่าปลูกข้าว 25 ไร่
       
หนุ่มพิจิตรลดทำนา ปลูก “เมลอน” สู้แล้ง แค่ 72 ตร.ม. กำไรดีกว่าปลูกข้าว 25 ไร่
       
หนุ่มพิจิตรลดทำนา ปลูก “เมลอน” สู้แล้ง แค่ 72 ตร.ม. กำไรดีกว่าปลูกข้าว 25 ไร่

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

สวนกล้วยไม้แย้มประยูร จ.พระนครศรีอยุธยา

พระนครศรีอยุธยา 5 ม.ค.-เกษตรกรชาว จ.พระนครศรีอยุธยา เริ่มต้นปลูกกล้วยไม้เพียง 2 ไร่ ได้ผลดีมีลูกค้าทั้งในประเทสและนอกประเทศเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนขยายเป็น 100 ไร่   คุณลุงมานิตย์ แย้มประยูร เกษตรกร วัย 76 ปี เริ่มต้นจากใจรักใน กล้วยไม้ ลงทุน ปลูกกล้วยไม้ กับเงินทั้งหมดที่มีอยู่ 4,000 บาท บนที่ดิน 2 ไร่ เพราะความขยัน อดทนทำให้คุณลุงมีลูกค้าเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนสามารถขยายจาก 2 ไร่ เป็น 100 ไร่ พัฒนาขยายสายพันธุ์ใหม่จนสร้างชื่อเสียงระดับโลก สร้างรายได้หลักแสนบาทต่อเดือน   คุณลุงมานิตย์ บอกว่า ปกติ กล้วยไม้ นิยมขยายพันธุ์โดยวิธีการเพาะเลี้ยงเนื้อเยื่อ หรือเพาะเมล็ด เพราะทำให้เกิดต้นกล้าจำนวนมาก เติบโตสม่ำเสมอ และปลอดโรคใช้เวลาในการเติบโตแตกต่างกันประมาณ 1 -3 ปี แล้วแต่ชนิดพันธุ์และสูตรอาหาร   ตลาดส่งออกกล้วยไม้ตัดดอกที่สำคัญ ได้แก่ ตลาดยุโรป อเมริกา ญี่ปุ่น เวียดนามและเมียนมาร์ ซึ่งสีสันที่แต่ละภูมิภาคชื่นชอบก็จะแตกต่างกันไป อย่างยุโรปจะชื่นชอบกล้วยไม้สีแดง ส่วนตลาดญี่ปุ่นจะชื่นชอบกล้วยไม้สีม่วง ขณะที่การเปิดประชาคมอาเซียนเป็นอีกโอกาสในการขยายตลาดของ กล้วยไม้ไทย ...

เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับ "แม่แรง" ใช้ทำอะไร ดีอย่างไร

เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับ "แม่แรง" ใช้ทำอะไร ดีอย่างไร แม่แรง คือ เครื่องมือแบบหนึ่งที่มีหน้าที่ในการเพิ่มเเรงในการยกรถยนต์ เพื่อทำการซ่อมแซมบำรุงส่วนต่างๆของรถยนต์ไม่ว่าจะเป็นล้อรถยนต์ ช่วงล่างของรถยนต์ หรือใช้ในการสำรวจตัวถังของรถยนต์ เป็นเครื่องไม้เครื่องมือที่ช่วยทุ่นแรงในการทำงานเกี่ยวกับช่วงล่างของรถยนต์ เพื่อให้การทำงานรวดเร็วขึ้น ตามปกติตัวถังและโครงรถยนต์ จะต้องทำการซ่อมบำรุงเนื่องมาจากอุบัติเหตุ ทำให้โครงตัวถังรถเกิดการโค้งงอ บิดตัว แตกหัก หรือฉีกขาด ซึ่งจะต้องทำการซ่อมแซมบริเวณส่วนที่โค้งงอ บิดตัว ให้ตรงเหมือนเดิม โดยใช้วัสดุอุปกรณ์ที่ให้กำลัง (Power Tool) สำหรับดึง และดันซึ่งแล้วแต่ชนิดของงานที่จะซ่อมนั้นๆ แม่แรงแบ่งออกเป็น 2 หมวดหลักๆ ด้วยกัน 1. แม่แรงระบบไฮดรอลิก แม่แรงชนิดไฮดรอลิก ยอดเยี่ยมตรงที่ทำให้คนใช้เบาแรง และสามารถยกน้ำหนักได้เยอะแม้จะมีขนาดตัวไม่ใหญ่มากนัก แต่ก็มีจุดบกพร่องอยู่ตรงที่โอริงของระบบไฮดรอลิกอาจจะรั่ว หากนำไปใช้ยกน้ำหนักที่มากเกินกว่าจะรับไหว หรือเมื่อถูกนำไปเก็บไว้ในลักษณะที่น้ำมันไฮดรอลิกไหลรั่วออกมาได้ง่าย และมีขีดจำกัดที่หากอยากยกระด...

เคล็ดลับการดูแลเก็บรักษาเครื่องตัดหญ้า

เคล็ดลับการดูแลเก็บรักษาเครื่องตัดหญ้า การดูแลรักษาเครื่องตัดหญ้า จะรวมถึงการตรวจทานน้ำมันเชื้อเพลิงภายในถังน้ำมัน  การเปลี่ยนถ่ายน้ำมัน  การกลั่นกรองก่อนที่จะจัดเก็บเข้าที่  และการปลดแบตเตอรี่  นอกเหนือจากเหล่านี้แล้ว เราควรชะล้างเครื่องตัดหญ้าอย่างละเอียดยิบก่อนที่จะนำไปจัดเก็บ  สำหรับ เครื่องตัดหญ้า ควรถูกนำไปเก็บไว้ในบริเวณที่มีความปลอดภัยจากสภาพอากาศที่เปียกโชกชื้น อาจต้องคลุมเครื่องตัดหญ้าด้วยผ้าเพื่อให้แน่ใจว่าเครื่องตัดของพวกเขาจะปลอดภัยจากการเปียกฝน  และสิ่งโสโครกต่างๆ การดูแลรักษาเครื่องตัดหญ้าจะมีผลประโยชน์คุณประโยชน์มากที่สุดในช่วงฤดูหนาว และฤดูฝน ขั้นตอนการดูแลเก็บรักษา เครื่องตัดหญ้า ในช่วงฤดูใบไม้ผลิและฤดูร้อน เครื่องตัดหญ้า จะถูกนำมาใช้งานเป็นเสมอ เลยไม่จำเป็นต้องการการดูแลมากเท่ากับช่วงฤดูหนาวหรือฤดูฝน ส่วนมากจะเก็บเครื่องตัดหญ้าไว้ในบริเวณที่ปลอดภัยจากภูมิอากาศ  และควรทำความสะอาดเครื่องตัดหญ้าเป็นประจำทั้งภายในและภายนอกอย่างน้อยหนึ่งครั้งหลังจากใช้งานเสร็จแล้ว เพราะจะช่วยคุ้มครองปัญหาบางส่วนที่อาจจะเกิดขึ้นกับเครื่องยนต์